ชาไทย ไม่ได้เป็นแค่เครื่องดื่มประจำชาติอีกต่อไป

แต่ได้กลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ใหม่ของวงการเครื่องดื่มระดับพรีเมี่ยม ที่สามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ดื่มได้อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่กลิ่น รส ไปจนถึงวิธีการชงที่พิถีพิถัน ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ชาไทยแบบ Specialty ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหมู่คนรุ่นใหม่และผู้ที่หลงใหลในศิลปะแห่งรสชาติ

การเปลี่ยนผ่านจากชาไทยเย็นแบบดั้งเดิมที่เราคุ้นเคย มาสู่ ชาไทยพรีเมี่ยม ในรูปแบบของร้าน Specialty Tea นั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่คือผลลัพธ์จากการใส่ใจในรายละเอียด ตั้งแต่การคัดสรรใบชาจากแหล่งปลูกเฉพาะถิ่น การเบลนด์สูตรชาเฉพาะตัว การเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพ ไปจนถึงการนำเสนอในรูปแบบที่แปลกใหม่ บางร้านใช้วิธีชงเฉพาะทางอย่าง Siphon หรือ French Press บางร้านเบลนด์กลิ่นหอมอย่างดอกไม้ สมุนไพร หรือแม้แต่วนิลาและโกโก้เข้าไปด้วย จนกลายเป็นเครื่องดื่มที่มีมิติมากกว่าความหวาน

สำหรับสายชาเข้ม หรือใครที่กำลังมองหา ร้านชาไทยรสชาติดี ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วันนี้เราคัดมาให้แล้วกับ 10 ร้านชาไทย Specialty ที่ควรค่าแก่การแวะไปลองสักครั้งในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสายคลาสสิก สายสุขภาพ หรือสายอาร์ตที่มองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ รับรองว่าทุกแก้วมีเรื่องราว และทุกร้านมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไปอย่างชัดเจน

10 ร้านชาไทยอร่อยพร้อมพิกัด

1. Karun Thai Tea

Cr. Karun Thai Tea

Karun Thai Tea คือร้านชาไทย specialty ที่ตั้งใจยกระดับชาไทยให้กลายเป็นเครื่องดื่มที่มีมิติรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัว โดยเลือกใช้ใบชาคุณภาพสูงจากทั้งภาคเหนือและภาคใต้ของไทย ได้แก่ ชาอัสสัมและชาซีลอน ซึ่งให้กลิ่นและรสเข้มข้นแต่ละแบบ แล้วนำมาเบลนด์เข้าด้วยกันจนเกิดเป็นชา 3 สูตรหลักของทางร้าน นอกจากซิกเนเจอร์แบบคลาสสิกแล้ว ยังมีชาเบลนด์กลิ่นแปลกใหม่อย่างวานิลา โกโก้ และดอกหอมหมื่นลี้ ที่ช่วยเติมความซับซ้อนและหอมละมุนให้ชาแต่ละแก้ว จุดเด่นอีกอย่างคือสามารถเลือกปรับระดับความหวานได้ตามความชอบ ทำให้ผู้ดื่มได้สัมผัสรสชาที่แท้จริงในแบบที่เหมาะกับตัวเอง

ราคา: Signature Thai Tea 85 บาท / Thai Tea Blend (12 oz) 95 บาท

Google maps: Karun Thai Tea

2. Khiri Thai Tea

Cr. Khiri Thai Tea

Khiri Thai Tea โดดเด่นด้วยแนวคิด Single Origin Thai Tea โดยเลือกใช้ใบชาจากแหล่งปลูกเฉพาะถิ่นทั่วประเทศไทย ทั้งจากพะเยา เชียงราย แม่ฮ่องสอน และปัตตานี ซึ่งแต่ละพื้นที่ให้กลิ่นและรสที่ต่างกันอย่างชัดเจน เช่น ใบชาจากแม่ฮ่องสอนจะมีรสติดเปรี้ยวเล็กน้อยจากการปลูกร่วมกับเบอร์รี่ ส่วนใบชาจากภาคใต้จะให้รสเข้มลึกและหนักแน่นกว่า นอกจากนี้ทางร้านยังให้ความสำคัญกับวิธีชงที่ช่วยดึงเอกลักษณ์ของแต่ละใบชาออกมาอย่างเต็มที่ กลายเป็นชาไทยที่ไม่ใช่แค่หอมหวาน แต่เต็มไปด้วยภูมิประเทศ รสชาติ และเรื่องราว

ราคา: Single Origin Thai Tea (12 oz) 110 บาท

Google maps: Khiri Thai Tea

3. Sicha Premium Thai Tea

Cr. Sicha Premium Thai Tea

Sicha Premium Thai Tea เป็นร้านชาไทยที่ตั้งใจนำเสนอความหรูหราในแบบฉบับของชา ด้วยการคัดเลือกใบชาชั้นดีถึง 3 ชนิด แล้วนำมาเบลนด์อย่างประณีต ผสมกับนม หรือครีมสูตรเฉพาะ ทำให้เกิดสูตรชาไทยที่หลากหลาย ทั้งแบบคลาสสิก ลดหวาน ใช้นมถั่วเหลือง หรือนมอัลมอนด์ จุดเด่นที่ทำให้ Sicha แตกต่างคือการพ่นทองคำเปลวลงบนแก้วก่อนเสิร์ฟ เพิ่มทั้งความรู้สึกพิเศษและภาพลักษณ์ที่หรูหรา กลายเป็นชาไทยพรีเมี่ยมที่ทั้งรสชาติดีและดูดีในทุกมุม

ราคา: Original Thai Tea 90 บาท

Google maps:  Sicha Premium Thai Tea

4. TEA MATTER

Cr. TEA MATTER

TEA MATTER คือร้านชาไทย Specialty ที่เน้นการใช้ใบชาคุณภาพสูงจากแหล่งปลูกที่ดีที่สุด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีทั้งชาแบบ Single Origin และชาเบลนด์สูตรเฉพาะของร้าน เมนูของที่นี่ไม่ได้จำกัดแค่ชาไทยดั้งเดิม แต่ยังมีชาเบลนด์ที่ใส่วัตถุดิบธรรมชาติ เช่น ผลไม้ ดอกไม้ หรือสมุนไพร เพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมอย่างมีมิติ นอกจากนี้ยังมีเมนูสร้างสรรค์อย่างชาไทยโซดา หรือชาไทยผสมผลไม้ ที่ให้ทั้งความสดชื่นและแปลกใหม่ ทำให้ TEA MATTER เหมาะกับคนที่อยากลองชาไทยในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร

ราคา: Signature Thai Tea 85 บาท

Google maps: TEA MATTER

5. ชงดี (โรงชาชงดี)

Cr.ชงดี (โรงชาชงดี)

ร้านชงดี หรือโรงชาชงดี นำเสนอชาใต้แท้ ๆ ที่เน้นความเป็นธรรมชาติแบบไร้การปรุงแต่ง ไม่มีการใส่สีหรือกลิ่นสังเคราะห์ใด ๆ แต่ยังคงความหอมเข้มตามสไตล์ชาใต้ไว้อย่างชัดเจน จุดเด่นของร้านอยู่ที่การใช้ชาซีลอน 100% ในสูตร ชงดี ซึ่งให้รสชาติเข้มลึก ส่วนสูตร ชงร่วม จะเป็นการผสมผสานระหว่างชาซีลอนกับชาไทยแบบดั้งเดิม เพิ่มความกลมกล่อมยิ่งขึ้น อีกหนึ่งความพิเศษคือการเสิร์ฟชาพร้อมปาท่องโก๋ในทุกแก้ว เพิ่มอารมณ์แบบไทย ๆ ที่หาทานได้ยากในร้านชาแบบ Specialty

ราคา: ชาชงดี 85 บาท / ชาชงร่วม 95 บาท

Google maps: ชงดี (โรงชาชงดี)

6. ชาเจริญ

Cr.ชาเจริญ

ชาเจริญ โด่งดังจากเมนูชาไทยสเลอปี้ที่เนื้อเนียนละเอียดและรสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นชาแบบพรีเมี่ยมโดยไม่ขมปลาย รสหวานกลมกล่อมกำลังดี นอกจากชาไทยแบบสเลอปี้แล้ว ทางร้านยังมีเมนูที่ใช้วัตถุดิบไทย ๆ อย่างมะพร้าวน้ำหอมมาเพิ่มลูกเล่น เช่น ชาไทยมะพร้าวน้ำหอมที่มีเนื้อมะพร้าวอ่อนให้เคี้ยวเพลิน เหมาะกับคนที่มองหาความสดชื่นพร้อมรสชาติที่แตกต่าง

ราคา: ชาไทยสเลอปี้ 90 บาท

Google maps: ชาเจริญ

7. MANA Specialty Coffee

Cr. MANA Specialty Coffee

แม้ชื่อร้านจะบอกว่าเป็นคาเฟ่กาแฟ แต่ในหมวดชาไทย MANA ก็ไม่ธรรมดา ด้วยการเบลนด์ชา 4 ชนิดเข้าด้วยกัน จนได้กลิ่นหอมโดดเด่นตั้งแต่จิบแรก รสชาติของชามีความบาลานซ์อย่างดีระหว่างความเข้มของใบชา และความละมุนของนม ความหวานไม่มากเกินไป มีความหอมที่ชัดเจนแบบชาใต้ แต่ไม่กลบกลิ่นนม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการชาไทยที่ทั้งดื่มง่ายและมีมิติรสชาติ

ราคา: 95 บาท

Google maps: MANA Specialty Coffee

8. ChumChum

Cr.ChumChum

ChumChum คือร้านชาไทยที่ให้ความสำคัญกับธรรมชาติของวัตถุดิบเป็นหลัก ใช้ชาดำสกัดเข้มข้นตามสูตรเฉพาะ ไม่มีการแต่งสีหรือกลิ่น ทำให้ได้เครื่องดื่มที่หอมหวานจากธรรมชาติอย่างแท้จริง จุดเด่นของร้านคือการใช้สมุนไพรไทยหลากชนิดผสมกับชาดำในสัดส่วนที่ลงตัว เพื่อเพิ่มทั้งกลิ่นรสและประโยชน์ด้านสุขภาพ เหมาะสำหรับคนที่ชอบเครื่องดื่มธรรมชาติและต้องการความแตกต่างจากชาไทยทั่วไป

ราคา: 75 บาท

Google maps: ChumChum

9. Citizen Tea Canteen

Cr. Citizen Tea Canteen

Citizen Tea Canteen ไม่ใช่แค่ร้านชา แต่เป็นโรงน้ำชาที่ผสมผสานกับพื้นที่ศิลปะ มีการคัดสรรใบชาคุณภาพสูงจากแหล่งต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย แล้วนำมาเบลนด์เป็นสูตรเฉพาะที่ให้กลิ่นหอมเฉพาะตัว โดยบางเมนูใช้วิธีชงพิเศษอย่าง Siphon เพื่อให้ได้รสชาตินวล กลมกล่อม และสม่ำเสมอ จุดเด่นของร้านคือการนำเสนอชาไทยแบบร่วมสมัย ที่ยังคงความดั้งเดิมแต่ปรับให้ดูดีในบริบทใหม่ ๆ

ราคา: Thai Milk Tea 120 บาท

Google maps: Citizen Tea Canteen

10. JINNAPAT THAI TEA

Cr. JINNAPAT THAI TEA

JINNAPAT เป็นร้านชาไทยที่พัฒนา สูตรเฉพาะ โดยใช้การเบลนด์ชาเข้าด้วยกันถึง 4 ชนิด จนได้รสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมที่แตกต่างจากชาไทยทั่วไป นอกจากชาเย็นแบบคลาสสิกแล้ว ยังมีเมนูใหม่ ๆ ที่ใช้วัตถุดิบหลากหลาย เช่น สมุนไพรไทย ผลไม้ หรือกลิ่นหอมจากดอกไม้ ทำให้ชาไทยของร้านมีความทันสมัยและหลากหลาย พร้อมตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มองหาอะไรใหม่ ๆ ในแก้วเดิม

ราคา: ประมาณ 90 100 บาท (ขึ้นอยู่กับเมนู)

Google maps: JINNAPAT THAI TEA

สรุป

เมื่อพูดถึงชาไทย หลายคนอาจนึกถึงเครื่องดื่มสีส้มรสหวานที่คุ้นเคย แต่ในโลกของ ชาไทยแบบ Specialty มีอะไรมากกว่านั้นอีกมากมาย ทั้งเรื่องของวัตถุดิบ กระบวนการชง เทคนิคการเบลนด์ และการตีความใหม่ที่ทำให้ชาไทยกลายเป็นงานศิลปะในแก้วอย่างแท้จริง

ไม่ว่าจะเป็น การเลือกใบชาจากแหล่งปลูกเฉพาะถิ่น ที่มี terroir และรสชาติแตกต่างกัน การเบลนด์กลิ่นใหม่อย่างวานิลา โกโก้ หรือสมุนไพร รวมไปถึงวิธีชงที่แสดงถึงความประณีต ร้านชาไทยทั้ง 10 แห่งที่เราแนะนำล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสะท้อนถึงความใส่ใจในทุกขั้นตอน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่มากกว่าแค่ ดื่มชา

ดังนั้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในกลิ่นหอมของชา รสเข้มที่ไม่หวานจัด และความลึกซึ้งของเครื่องดื่มไทยที่มีประวัติยาวนาน การเปิดใจให้กับ ร้านชาไทยพรีเมี่ยมเหล่านี้ อาจเปลี่ยนภาพจำของคุณที่มีต่อชาไทยไปตลอดกาล

และหากท่านใดสนใจบริการ หรืออยากฝากให้เราแนะนำธุรกิจ SME ของท่าน สามารถลงทะเบียนผ่านฟอร์มได้ที่นี่  https://www.smemarketingcenter.com/sme410-form